ภายหลังจากที่รัฐบาลมีโครงการสินเชื่อเงินด่วนคนดี โดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. จัดเตรียมงบประมาณ จำนวน 10,000 ล้านบาท ให้สมาชิกอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. และอาสาสมัครสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร หรือ อสส. เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการอุปโภคบริโภค แทนการกู้เงินนอกระบบ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.67 ต่อเดือน หรือร้อยละ8 ต่อปี ลดต้น ลดดอก ผ่อนชำระไม่เกิน 4 ปี

ที่ ศาลาอเนกประสงค์ชุมชนการเคหะ เขตเทศบาลนครขอนแก่น พบว่า อสม.ทุกคนล้วนเห็นด้วย เพราะเป็นการช่วยเหลือได้ในระดับหนึ่ง ลดการเข้าถึงเงินกู้นอกระบบ น.ส.อุรา ปราบมนตรี ประธาน อสม.และประธานชุมชนการเคหะขอนแก่น  กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นเรื่องที่ดี ที่ต้องการช่วยเหลือพี่น้อง อสม.ทั่วประเทศที่มีอยู่กว่า 1 ล้านคน เพราะจะได้นำเงินส่วนนี้มาใช้จ่ายอุปโภคบริโภค แต่ถ้าจะให้ดีอยากให้รัฐบาลเพิ่มวงเงินกู้จาก 20,000 บาท  เป็น 50,000 บาท เพราะโดยส่วนตัวมองว่า 20,000 บาท น้อยเกินไป ปัจจุบัน อสม.บางคนมีหนี้สิน แต่ก็ทำงานด้วยใจ ซึ่งเงินที่ได้อาจจะต้องแบ่งใช้หนี้ แต่ถ้าได้ 50,0000 บาท ก็จะ นำไปใช้หนี้ หรือมาลงทุนทำอย่างอื่นได้บ้าง “ยอมรับว่าภาระหน้าที่ของ อสม.มีเยอะ เมืองขอนแก่น มี อสม.ทั้งสิ้น 1,166 คน แต่ปีนี้โชคดีได้โควตารับเพิ่มอีก 100 คน รวมเป็น 1,266 คน ส่วนค่าตอบแทนที่รัฐบาลจัดสรรให้ก็ไม่ได้มาก โดย ล่าสุดรัฐบาลเพิ่มให้อีกรวมเป็น 2,000 บาท แต่ยังไม่ได้รับเงิน ซึ่งคาดว่าจะตกเบิกย้อนหลังในเดือน พฤษภาคม นี้ และถ้าหากกู้เงินสินเชื่อรัฐบาล 20,000 บาท ผ่อน  48 เดือน เฉลี่ยต้องจ่ายอยู่ที่ 416 บาท และแต่ละเดือนต้องจ่ายเงินฌาปนกิจ อสม.อีก เฉลี่ยเดือนละ 300-400 บาท เงิน

เดือนที่ได้ 2,000  บาท สุดท้ายก็จะเหลือใช้แค่ 1,000 กว่าบาทเท่านั้น ซึ่งก็อยากเสนอว่าเงินฌาปนกิจที่ อสม.จ่ายแต่ละเดือน ขอให้ อสม.เบิกมาใช้ก่อนได้ โดยไม่ต้องรอจนเสียชีวิต"

น.ส.อุรา กล่าวต่ออีกว่า  โครงการนี้ พี่น้อง อสม.ให้ความสนใจจำนวนมาก และมีการเข้าไปถามรายละเอียดจากธนาคาร ธกส. แต่ได้รับคำตอบเบื้องต้นว่า อสม.ที่กู้ได้ต้องอายุไม่เกิน 60 ปี ทำให้ อสม.ทั้งหลายมีความกังวล เพราะ อสม.ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ จึงอยากให้สิทธิ์การกู้เข้าถึงทุกคน เพราะจะช่วยแบ่งเบาภาระของ อสม. และจะได้ช่วยงานรัฐบาลให้บริการประชาชนได้เต็มที่

เพชรรัตน์ วังระหา

สวท.ขอนแก่น